ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น มี 3 แบบดังนี้
1. ฮิระงะนะ ひらがな (Hiragana)
2. คะตะคะนะ カタカナ (Katakana)
3. คันจิ 漢字 (Kanji)
1.) ฮิระงะนะ ひらがな (Hiragana)
มีจำนวน 46 ตัวอักษร เป็นตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นดั้งเดิม ใช้เขียนคำช่วย หรือ คำที่แสดงความหมายหลัก โดยทั่วไปใน TV จะเห็นตัวอักษร ฮิระงะนะ อยู่บน ตัวอักษรคันจิ จะเรียกว่า ' ฟุริกะนะ ' ซึ่งช่วยให้อ่านได้ง่ายขึ้น
สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานเลยจะต้องเริ่มจำจาก ฮิระงะนะ ก่อนเป็นอันดับแรก ตามตารางข้างล่าง

a , i , u , e , o จะเป็นสระ เหมือนภาษาอังกฤษ
หมั่น จำ สลับกับ หัดเขียนไปเรื่อยๆ ควรจำให้แม่นๆ เพราะเป็นตัวอักษรพื้นฐานในญี่ปุ่น
2.) คะตะคะนะ カタカナ (Katakana)
มีจำนวนตัวอักษร 46 ตัวเท่ากับฮิระงะนะ ไว้ใช้กับศัพท์ที่มาจากต่างประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษ
หรือชื่อเฉพาะสำหรับ บุคคล, สถานที่, สิ่งของ หรือ คำเลียนเสียง
หลังจากเราจำฮิระงะนะได้เราก็ควรจำคะตะคะนะต่อ รวมๆต้องจำอย่างน้อยถึง 92 ตัวสู้ๆนะจ๊ะ

3.) คันจิ 漢字 (Kanji)
เป็นตัวอักษรที่คนญี่ปุ่นยืมมาจากจีน ส่วนมากจะเหมือนคำจากภาษาจีนเลย ส่วนที่เหลือญี่ปุ่นก็นำมาดัดแปลงเอง ใช้แสดง คำนาม ,กริยา คนญี่ปุ่นมักจะใช้ คันจิ ผสมกัน ฮิระงะนะ หรือ คะตะคะนะ
คันจิจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. คุงโยมิ [ คันจิ + ฮิระงะนะ ] เป็น เสียงแบบญี่ปุ่น
2. องโยมิ เป็นเสียงอ่านแบบภาษาจีน จะอ่านแบบนี้เมื่อเจอ คันจิ 2 ตัวขึ้นไป
ประเทศญี่ปุ่นมีการบัญญัติให้ใช้ คันจิ ในชีวิตประจำวัน 2000 - 3000 ตัว เรียกว่าคนญี่ปุ่นเองยังจำแทบไม่หมดเลย
ถ้า a e i o u เป็นสระ แล้วตัวทีเหลือเปนพยัญชนะหรอคะเหมือนอังกฤษไหมคะ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบmay i know about konji also thank you
ตอบลบขอบคุณมากๆค่
ตอบลบ